อาหารภาคใต้
ประเภทผัด
1. สะตอผัดกะปิกุ้งสด
ส่วนผสม
1. สะตอ 1 ขีด
2. กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
3. กุ้งชีแฮ 1 ขีด
4. กระเทียมกลีบเล็ก 6 กลีบ
5. หอมแดง 2 หัว
6. น้ำตาลทราย ตามชอบ
7. น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
8. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
9. พริกเหลืองหรือพริกขี้หนูแดงสด 7 เม็ด
วิธีปรุงเครื่องแกง
นำกระเทียม กะปิ พริก และหอมแดง โขลกรวมกัน ให้ละเอียด แค่นี้ก็ได้พริกแกงสำหรับผัดสะตอรสชาติที่จัดจ้านแล้วค่ะ
วิธีทำผัดสะตอ
1. กระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำเครื่องแกงที่ตำไว้ผัดจนเริ่มมีกลิ่นฉุน สังเกตุได้จากคนรอบข้างจะเริ่มจาม ถ้าไม่จามต้องตำพริกใส่ลงไปอีก
2. ใส่กุ้งชีแฮที่ล้างให้สะอาด เด็ดหัวและผ่าหลังให้เรียบร้อย รอสักครู่
3. เมื่อกุ้งเริ่มสุกโดยดูได้จากตัวกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีจากสีใสๆ เป็นสีส้มอ่อนๆ ใส่น้ำมะนาวเพื่อให้สะตอคงสีเขียวที่น่ารับประทานไว้ เสร็จแล้วสะตอลงผัดใส่น้ำตาลทราย 2 -3 หยิบมือเป็นอันเรียบร้อย
ตักใส่จานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเชียว
** สะตอก่อนนำมาผัดให้แช่น้ำปล่าว ประมาณ 10 นาที เพื่อสะตอจะได้ไม่เหี่ยวเวลาผัด และไม่ควรผัดนานเกนไปหลังจากใส่สะตอแล้ว เพราะจะทำให้ไม่กรอบี
2.ผักเหลียงผัดไข่
ส่วนผสม
ผักเหลียง 2 กำ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมกลีบกลาง 15 กลีบ
น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมกลีบกลาง 15 กลีบ
น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำก้านผักเหลียงแช่น้ำ ล้างน้ำ สะบัดน้ำออกให้หมด
- ริดใบเหลียงออกจากก้าน หากใบเหลียงใหญ่มากตัดให้เล็กลงได้
- กระเทียม ปอกเปลือก ล้างน้ำ ทุบ สับพอหยาบ
- ผสมซอสสำหรับผัดใส่ถ้วยใบย่อม คือ ซอสหอยนางรม น้ำปลาและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ตั้งไฟกลาง รอน้ำมันอุ่น
- น้ำมันอุ่นแล้วนำกระเทียมลงไปเจียวพอหอมหรือเริ่มเหลือง
- เทใบเหลียงใส่ลงไป ผัดพอให้ใบเหลียงถูกไฟทั่ว
- ตอกไข่ใส่ แล้วใช้ตะหลิวยีให้ไข่แดงแตกคนพอให้ทั่วไข่ขาว รอให้ไข่ด้านล่างสุก อย่าเพิ่งรีบกลับไข่ ไข่จะได้เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่แหลกเละจนเกินไป
- ไข่ด้านล่างสุกแล้วจึงกลับด้านบนลงด้านล่าง และด้านล่างขึ้นมาบน
- ราดซอสที่เตรียมไว้ให้ทั่ว รอไข่สุกผัดให้ทั่วกันด้วยไฟแรงสักพัก
- ปิดเตา ตักใส่จานเสิร์ฟค่ะ
3.บวบผัดไข่
ส่วนประกอบ
- บวบเหลี่ยม 2 ลูก
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 1 ชต.
- ซีอิ๊วขาว 1 ชต.
- ซอสหอยนางรม 1/2 ชต.
- น้ำตาลทราย 1/2 ชต.
- น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต.
- น้ำเปล่า 2 ชต.
วิธีทำ
- ก่อนอื่นมาดูบวบกันก่อนนะคะ เผื่อใครไม่รู้จัก .. บวบที่พิมใช้วันนี้คือบวบเหลี่ยม หน้าตาเป็นอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่มีบวบเหลี่ยม จะใช้บวบหอมก็ได้ค่ะ อร่อยเหมือนกัน
- นำบวบเหลี่ยมมาปอกเปลือกออก โดยอาจจะปอกหมด หรือจะเหลือเปลือกไว้บ้างก็ได้ค่ะ แต่ถ้าผัดให้เด็กหรือผู้สูงอายุทาน แนะนำให้ปอกหมดนะคะ ... ปอกเสร็จก็เอาไปล้างให้สะอาดค่ะ
- แล้วหั่นแบบเฉียงไปเฉียงมาอย่างในภาพด้านบน ไว้เป็นชิ้นพอคำนะคะ
- จากนั้นหันมาตั้งกระทะบนเตาไฟ ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปเจียว พอกระเทียมเริ่มเหลืองก็ใส่บวบลงไปผัดนะคะ ตามด้วยน้ำเปล่านิดหน่อย ผัดจนบวบสุกนิ่มตามชอบ
- ก็ตอกไข่ใส่ลงไป ยีไข่ด้วยปลายตะหลิวให้แตก โกยบวบลงมาไว้บนไข่
- รอจนไข่เริ่มสุก ก็ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอย น้ำตาลทรายนิดนึง ผัดให้เข้ากันดี ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
- แล้วตักใส่จานสวย ๆ
ส่วนประกอบสำคัญ
- เอ็นหอยจอบ
- พริกจินดาแดง
- พริกขี้หนู
- โหระพา
- กระเทียมไทย
- รากผักชี
- พริกไทยขาว
- พริกไทยอ่อน
- กระชาย
- น้ำมันรำข้าว
- น้ำปลา
- น้ำตาล
- เอาพริกจินดาแดง และพริกขี้หนู มาตำรวมกัน เอาแค่พอหยาบๆ นะครับ เสร็จแล้ว ตักขึ้นมาจากครก พักเอาไว้
- ต่อมา เอากระเทียม ลงไปตำเช่นเดียวกัน ครึ่งหนึ่งแกะเปลือก อีกครึ่งหนึ่ง ไม่ต้องแกะเปลือกออกหมด เหลือเปลือกชั้นในเอาไว้ ตำแค่พอหยาบๆ แล้วตักใส่ถ้วย พักเอาไว้ รอเอาไปผัด
- ล้างครกให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง จากนั้น ตำเครื่องแกง โดยใช้ กระเทียม ( เหลือเปลือกชั้นในเอาไว้ ) รากผักชี และพริกไทยขาว เอามาตำรวมกันจนละเอียด เป็นเนื้อเดียวกัน โดยใส่ตามลำดับดังนี้ พริกไทยขาว รากผักชี และกระเทียม
- เริ่มต้นด้วยการ ติดไฟ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรำข้าว ลงไป
- พอน้ำมันเริ่มร้อน ก็ใส่พริก กระเทียม และ เครื่องแกง ที่ตำเอาไว้แล้ว ลงไปผัด ในกระทะ
- ผัดด้วยไฟ ปานกลางถึงแรง ผัดไปเรื่อยๆ จนมีกลิ่นหอม
- พอผัดเครื่องจนหอมแล้ว ก็ใส่ เอ็นหอย ลงไปผัดได้เลย ในขั้นตอนนี้ ให้ปรับมา ใช้ไฟแรงแบบสุดๆ เลยนะครับ
- ผัดไปเรื่อยๆ ถ้ามันแห้งเกินไป ก็สามารถเติมน้ำสต็อก ( น้ำซุป ) ลงไปได้นิดนึง
- ใส่พริกไทยอ่อน และกระชาย ลงไปผัด
- ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำตาล ชิมดูด้วยนะครับ ว่าโอเคหรือเปล่า
- ผัดต่อไป ด้วยไฟแรงแบบสุดๆ
- ผัดไปเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มงวด จนเริ่มแห้ง เอ็นหอยสุกแล้ว ก็ใส่ใบโหระพาลงไป ปิดไฟทันที
- ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วตักขึ้นใส่จานได้เลย
5.ผัดพริกแกงทะเล
ส่วนผสม
1. ถั่วฝักยาวล้างแล้วหั่นไว้
2. น้ำพริกแกงเผ็ด
3. ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้นๆ
4. กุ้งสด
3. ปลากะพงขาวหั่นเป็นชิ้น
5. พริกเหลือหรือชี้ฟ้าหั่นแฉลบๆ
6. ใบมะกรูด
7.น้ำปลา
8. น้ำตาลทราย
9. น้ำมันหอย
วิธีทำ
- เตรียมเนื้อสัตว์ต่างที่จะใส่กุ้งแกะเปลือกเหลือหางเอาไว้ ผ่าหลังกุ้งเอาเส้นดำออก ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วบั้งให้ทั่ว
- เนื้อปลากะพงหั่นเป็นชิ้นๆไว้ไม่ควรบางมากเพราะเวลาผัดอาจเละ
- ใส่น้ำมันลงไปกระทะ ไม่ต้องใช้ไฟแรง ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงมาผัดจนได้กลิ่นหอม ใส่ซีฟู้ดต่างๆลงมาผัด ผัดพอซีฟู้ดสุก
- ใส่ถั่วฟักยาวลงมาผัด เติมน้ำเปล่าหหรือน้ำซุปลงมาเล็กน้อย
- ใส่เครื่องปรุงน้ำตาล น้ำปลา น้ำมันหอยลงมาผัดให้เข้ากัน ใส่พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด ใบโหระพาลงมาผัด ยกลงตักใส่จาน
6.แกงขี้เหล็กกับปลาย่าง
ส่วนผสม
- กะทิ 1 ถ้วย
- ใบและดอกขี้เหล็กอ่อน 1/2 ถ้วย
- เนื้อปลาย่าง 1/2 ถ้วย
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- เครื่องแกงกะทิ 3 ช้อนโต๊ะพูน ๆ หรือ 10 บาท
- กะปิ 2 -3 ช้อนชา
- เครืองแกงโขลกรวมกับกะปิ พักไว้
- ขี้เหล็ก มีแบบที่ขายในตลาดแม่ค้าเขาต้มมาแล้ว ก็ทำการลวกใหม่อีกครั้งหรือหาเองเป็นกิ่งก้านอยู่ก็ทำการเด็ดเอาแต่ดอกและใบอ่อนๆ ตามต้องกาแล้วตั้งน้ำให้เดือด ใส่เกลือลงไปสักนิด(หรือใส่มะเขือพวงลงไปสัก 1 พวงใหญ่) แล้วใส่ดอกและใบขี้เหล็กลง ต้มต่อสัก 10 นาที เทน้ำทิ้ง ทำซ้ำอีกครั้ง หรือจนกว่าความขมของขี้เหล็กจืด จนเป็นที่พอใจ นำไปล้างน้ำเย็นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งหม้อใส่กะทิให้เดือด นำเครื่องแกงมาโขลกกับดอกและใบขี้เหล็ก พอให้แตกหรือละเอียดก็ตามใจชอบ (บางคนไม่ตำกับเครื่องแกง แต่ใส่ตอนน้ำแกงเดือดไปเลย) ใส่ในหม้อตามด้วยปลาย่างที่แกะเอาแต่เนื่้อ คนให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วย น้ำตาล ชิมรสตามชอบ เมื่อได้รสชาดแล้วยกลงจากเตา